วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

ประวัติเครื่องเกมตลับในตำนาน Famicom



เครื่องเกมในตำนานจากปู่นินเทนโด ในชื่อ Nintendo Entertianment System หรือย่อๆ ว่า NES
ที่เรียกกันว่า Family Computer หรือ FAMICOM บ้านเรา
ถึงแม้จะไม่ใช่เครื่องเกมแรกของ Nintendo แต่ก็เป็นเครื่องเกมแรก
ที่ทำรายได้กับ Nintendo แบบถล่มทลาย และทำให้ Nintendo เป็นที่รู้จักกันในปัจจุบัน



Famicom เครื่องเกม 8 บิต เครื่องสีแดง - ขาว ที่ออกแบบโดย Masayuki Uemura
ได้ถือกำเนิดชึ้นมา โดยบริษัท Nintendo ในวันที่ 15 กรกฎาคม 1983 ( ปี พ..2526  )
ตัวเครื่องใช้ CPU ของ Ricoh 2A03  รันเกมด้วยระบบ ROM Cartridge หรือที่เรียกกันว่าตลับเกม
มีจอยเกม 2 อันพ่วงสายติดมากับเครื่องด้วย โดยมีช่องสำหรับเสียบจอยเก็บข้างเครื่อง 
















Famicom ผลิตขี้นมาโดยมุ่งเน้นให้เป็นเครื่องเล่นเกมส์สำหรับครอบครัว โดยใช้สื่อแบบเป็นตลับ
ที่สามารถ เปลี่ยนเป็นเกมส์อื่นได้ ราคาที่วางจำหน่ายครั้งแรกคือ 14,800 เยน
เปิดตัวพร้อมกับ 3 เกมส์วางจำหน่ายในวันแรก
1.Donkey Kong
2.Donkey Kong Jr.
3.Popeye 

หลังวางจำหน่ายได้ไม่นานก็ได้รับความนิยมสูงมาก ทั้งที่มีเกมส์ตอนนั้นเพียง 9 เกมส์   
อันดับเกมส์ที่ขายดี 3 เกมส์แรก

1. Baseball (Nintendo) 2,350,000 ตลับโดยประมาณ
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 1983
2. Mahjong (Nintendo) 2,130,000 ตลับโดยประมาณ
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 1983
3. Mario Bros. (Nintendo) 1,630,000 ตลับโดยประมาณ
วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 1983

แต่หลังจากวางจำหน่ายไม่นาน ตัวเครื่อง Famicom ก็เกิดปัญหาขึ้น
Nintendo ต้องเรียกคืน สินค้ากลับเพื่อนำไปเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่ และนำกลับมาจำหน่ายอีกครั้ง Famicom เป็นเครื่องเกมที่ขายดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปลายปี 1984 เป็นต้นมา
โดยยอดขายเมื่อปลายปี 1984 นั้นสูงถึง 2.5 ล้านเครื่องเลยทีเดียว



Famicom ได้รับความนิยมต่อเนื่องจนกระทั่งช่วงปลายปี 1994 
ตลาดเกมเครื่อง Famicom เริ่มแผ่วลง เนื่องจากคู่แข่งสำคัญอย่าง SEGA เริ่มเข้ามาแย่งตลาด
แถมยังมีคู่แข่งเก่าอย่าง Atari รวมไปถึงทาง Nintendo เองก็มุ่งความสนใจไปที่ Super Famicom ของตัวเองมากกว่า จนสุดท้ายก็เลิกทำการผลิตเครื่อง Famicom ไปในเดือนมกราคมปี 1995
โดยเกมสุดท้ายของเครื่อง Famicom ก็คือ Wario's Woods ซึ่งวางขายในวันที่ 1 ธันวาคม ปี 1994 แต่ว่ากันตามตรงแล้ว เกมที่เป็นเกมสุดท้ายจริงๆ ของเครื่อง Famicom ก็คือ Sunday Funday 
ที่วางจำหน่ายในปี 1995 เพียงแต่ไม่ใช่เกมที่ทำลิขสิทธิ์กับทาง Nintendo

FAMICOM มีเกมส์ที่ออกมาอย่างเป็นทางการมีทั้งหมด 1,249 เกม ตาม Famicom Complete
สรุปยอดขายรวมทั้งสิ้น 61.91 ล้านเครื่อง ในเดือนมกราคมปี 1995 ( .. 2538 )
ถือเป็นการปิดตำนานอันยิ่งใหญ่ลง

-----------------------------------------------------------------



ในบ้านเราเองก็มียุคหนึ่งที่ FR202 ถูกโฆษณาลงหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ มหาสนุก
และตามห้างต่างๆ โปรโมชั่น  จัดแข่ง  และในร้านเกมต่างๆ มากมาย  ถือว่าดังใช่ย่อยเลยล่ะ
ถึงจะสู้ยุค Play Station 1 ไม่ค่อยได้ก็ตาม
ตลับเกมที่แถมมากับเครื่อง FR202 ในยุคนั้นจะมี 2 ตลับคือ
















Variety  Top Ten 10 in 1
มี 10 เกม
1.Super Contra คอนทร้า
2.Master Fighter III. เกมต่อสู้สตีดไฟเตอร์
3.Mighty Final Fight เกมต่อย
4.Hudson's Adventure Island 3 หรือเกมจิน
5.Cattou Ninden Teyandee นินจาแมว
6.Chip 'n Dale Rescue Rangers เกมหนู
7.Kunio Dodgeball (Super Dodgeball) ปาลูกบอลใส่กันให้ตายไปข้างหนึ่ง
8.Tecmo World Cup Soccer เกมฟุตบอล
9. Hyper Olympic รวมเกมกีฬาโลก
10. Magic Jewlery เททริสเพชรพลอย
*อาจเรียงไม่ถูกบ้าง เพราะจำไม่ได้แล้ว ขออภัยด้วย TwT














และ Super 66 in 1
ซึ่งตอนนี้ก็จำไม่ได้แล้วด้วยว่ามีเกมอะไรบ้าง  ฮา

---------------------------------------------------------------------------------------------------





:::: อุปกรณ์เสริมของ Famicom ::::::


Light Gun

Nintendoได้ออกอุปกรณ์เสริมตัวแรกของเครื่อง Famicom ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 1984
เป็นอุปกรณ์สำหรับยิงที่ภาพของเกมบนหน้าจอ ซึ่งสมัยนั้นถือว่าไฮเทคเอามากๆ
 
คลิปตัวอย่างของเจ้า Light Gun : http://www.youtube.com/watch?v=8tB6g64pgIA
FR202 เองก็มีวางจำหน่ายพร้อมกับเจ้าปืนนี้ เกมที่ใช้กับ Light Gun ก็มี
Duck Hunt เกมยิงเป็ดในตำนาน
Wild Gun man เกมปืนไว

















Famicom Basic และ Data Recorder 
ปู่นินได้ผลิตอุปกรณ์เสริมขึ้นมาอีกชุดหนึ่งจากการร่วมมือกันของ Nintendo, Sharp Corporation และ Hudson Soft อุปกรณ์เสริมตัวนี้ สามารถตั้งโปรแกรมภาษา ( ในโปรแกรมเมอร์นะ )  และสร้างเกมแบบง่ายๆ ให้กับเครื่อง Famicom
ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 1985ได้พัฒนาจนถึง Famicom Basic V3 
โดยมีการเพิ่มหน่วยความจำ และลูกเล่นใหม่ๆเข้าไป จนสามารถใช้เครื่อง
Famicom Basic สร้างเกม Mario หรือ Donkey Kong ได้เองเลยครับ



R.O.B. (Robotic Operating Buddy) 



















ในวันที่ 26 กรกฎาคม ปี 1985 อุปกรณ์เสริมที่ล้ำยุคขึ้นไปอีกขั้นได้ถือกำเนิดขึ้นมา
ROB เป็นหุ่นยนต์ที่ใช้เครื่อง Famicom บังคับโดนเสียบตลับเกมส์เฉพาะ
แต่แล้วก็เจ๊งไปในเวลาไม่ถึงปีเพราะเกมที่ซัพพอร์ตมีเพียงแค่ 2 เกมเท่านั้น

แถมกินถ่านค่อนข้างมากอยู่ (ใช้ถ่าน AA 4 ก้อน)
คลิปตัวอย่าง : http://www.youtube.com/watch?v=7HJYvYYPG0E



Famicom Disk System










 เป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงกับเครื่อง Famicom เพื่อเล่นแผ่น Floppy Disk 
เริ่มวางจำหน่ายใน วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 1986
โดยสวม RAM Adapter กับช่องเสียบตลับของเกม และมีไดรฟ์สำหรับใส่แผ่น Floppy Disk
และเป็นอุปกรณ์เสริมของ Famicom ที่ขายดีที่สุดแล้วก็ว่าได้ครับ ( ไม่ต้องใข้ตลับ อิอิ )
เพราะขายได้เรื่อยๆ จนถึงปี 2003 เลยทีเดียว โดยยอดขายรวมอยู่ที่ 4.5 ล้านชุด



Famicom Box










 เป็นเครื่องเกม Famicom รุ่นหนึ่งที่พัฒนาโดยบริษัท Nintendo และ JTB Traveland
รูปร่างตัวเครื่องเป็นรูปทรงกล่องขนาดใหญ่ โดยในแพคเกจจะแถมเกมมาให้ฟรีๆ 15 เกมด้วยกัน
พร้อมด้วยจอย 2 อัน กับ NES Zapper
โดยเจ้า Famicom Box มักถูกใช้ตามห้องพักตามโรงแรม หรือร้านเกม
โดยการติดเครื่องหยอดเหรียญ
100 เยนต่อการเล่นเกม 1 ครั้ง



Famicom Four-way Adaptor
เป็นอุปกรณ์เสริม เพื่อใช้ต่อจอยพ่วง หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ 
เช่น Zapper หรือ Basic ทำให้รองรับได้ถึง 4 Player 




Twin Famicom

ในช่วงเดือนกรกฎาคม ทาง Sharp ก็ได้วางจำหน่ายเครื่อง Famicom 
รูปแบบใหม่ออกมาบ้าง ที่เรียก Twin Famicom
โดยการร่วมมือกันอีกครั้งของ Nintendo และ Sharp Corporation
โดยการนำเครื่องเกม Famicom กับ Disk System
มารวมร่างกันเป็นเครื่องเดียว สามารถเล่นได้ทั้งแบบตลับ และแผ่น Floppy Disk
มีช่องสำหรับใส่จอยพ่วงเสริมทางด้านข้างของตัวเครื่อง
สรุป คือ เครื่องเกม + ตัวเล่นแผ่นดิสก์ + ที่ต่อ 4 จอย ในเครื่องเดียวนั่นแหละ


Famicom Studybox
เป็นอุปกรณ์ต่อพ่วงอีกชิ้นหนึ่งของเครื่อง Famicom 
ผลิตโดย บริษัท Fukutake Publishing
มีลักษณะเหมือนเครื่องเล่นเทปโดยสามารถเปิดฝาด้านบนเพื่อเล่นเทปได้
ไม่มีปุ่ม เล่น กรอ ย้อนหน้า ย้อนหลัง เหมือนเครื่องเล่นเทปทั่วไปในสมัยนั้น
แต่จะใช้เป็นปุ่มบนคอนโทรลเลอร์ในการเลือกแทน
ซึ่งจุดมุ่งหมายหลักของการสร้าง Studybox ใช้เป็นสื่อสำหรับการเรียนรู้ของเด็ก
ตามเนื้อหาของเทป โดยจะมีแค่เสียง กับเพลงเท่านั้น



Power Pad













อุปกรณ์รูปร่างคล้ายแผ่นรองเต้นของเครื่อง PS1 ที่แรกเริ่มเดิมทีผลิตโดย Bandai ในปี 1986
จะเรียกว่า Family Trainer มีทั้งหมด 12 ปุ่ม ซึ่งหลังจากทาง
Bandai นำออกจำหน่ายที่อเมริกาแล้ว Nintendo จึงได้ซื้อลิขสิทธิ์
และจัดจำหน่ายในปี 1988 ในนามว่า Power Pad  พร้อมกับเกม  World Class Track Meet
โดย Power Pad  นั้นจะมีทั้ง Side A8ปุ่ม และ B12ปุ่ม 



Famicom Modem/Teleplay Modem














ผลิตในปี 1988 เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เนตของเครื่อง Famicom 
แต่ก็ไม่ใช่เอาไว้ใช้เล่น
Multiplayer  เหมือนเกมยุคนี้นะ
แต่มีไว้เพื่อเชื่อมต่อเซอเวอร์ของ Nintendo ที่มี content ต่างๆ
เช่น ดาวน์โหลด DLC เล็กๆ มาเล่น หรือเพื่อดูพยากรอากาศเป็นต้น



Famicom Titler 














จะเรียกว่าอุปกรณ์ก็คงไม่ได้ เพราะเจ้าสิ่งนี้เหมือนเป็นเครื่อง Famicom  อีกเครื่องหนึ่งเลยทีเดียว
เกิดมาจากการร่วมมือกันของ Nintendo และ Sharp ผลิตที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ในปี 1989
ราคา 43000 เยน   เป็นเครื่อง Famicom รุ่นเดียวที่สามารถปล่อยสัญญาณภาพ RGB ได้
และให้ภาพที่คมชัดกว่า C1 NES TV ซะอีก นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องแรกมี  output สัญญาณ S-Video นอกจากนี้ยังรองรับคีย์บอร์ด และมีระบบ Touch Screen อีกด้วย
ซึ่งผู้เล่นสามารถใช้อุปกรณ์ตัวนี้ในการ Edit Demo เกมได้เองด้วย



Karaoke Studio














อีก 1 อุปกรณ์เสริมจาก Bandai ในปี 1987 ในยุคที่คาราโอเกะกำลังดัง
โดยเกมคาราโอเกะนั้นสามารถให้คะแนนจากเสียงร้องของคน 
ผ่านอุปกรณ์ Karaoke Studio ได้อีกด้วย
การเล่นมีอยู่ 4 โหมด คือ

- Lesson (ร้องเพลงตามใจฉัน)
- Competition (ร้องแบบ Famicom Got Talent โดยมีกรรมการ 3 คนให้คะแนน)
- Super Star (เหมือนกับ Competition แต่เอาจริงเอาจังกว่าคือร้องเพื่อเป็น The Star)
- Game Show (ฟังตัวอย่างเพลง และทายชื่อเพลงให้ถูกต้อง)


Famicom 3D System











 แว่นตาสามมิติ ที่ต้องเชื่อมต่อกับเครื่อง Famicom มีขายเฉพาะที่ญี่ปุ่นเท่านั้น
ซึ่งอุปกรณ์ตัวนี้ สามารถกรองภาพของเกมบางเกมให้ออกมาเป็น 3 มิติได้
ถึงจะมีผู้ให้ความสนใจมากแค่ไหน
แต่ด้วยเกมที่ออกมาซัพพอร์ตนั้นมีแค่ 7 เกมเท่านั้น
นอกจากนี้เกม ที่สร้างมาเป็นแบบ 3D นั้นหากมองด้วยตาเปล่านานๆ แล้วจะปวดหัวเป็นอย่างมาก
จึงเจ๊งไปตามระเบียบ



Exciting Boxing














เกม Exclusive ที่ขายพร้อมตุ๊กตาล้มลุกอัดลมหน้าตาละม้ายคล้ายลุงโมริ โคโกโร่ จากนักสืบโคนัน
เป็นอุปกรณ์สุดไฮเทคยิ่งกว่าเครื่องเกมยุคต่อๆ มาซะอีก
ตัวเครื่องมีเซนเซอร์รับแรงกระแทกอยู่ภายใน ซึ่งสามารถระบุแรงหมัดที่ต่อยลงไปในเกมได้
ไม่ว่าจะเครียดมากจากไหน ก็สามารถกลับบ้านมาระบายกับลุงโมริได้ตลอดเวลา
จึงเป็นอุปกรณ์ที่ขายดีมาก ถึงแม้แพคเกจจะใหญ่เกะกะแค่ไหนก็ตาม
 



Top Rider















อุปกรณ์ที่ทำให้เพื่อนๆเหมือนมีตู้เกมมอเตอร์ไซด์อยู่ในบ้าน
โดยกว่าจะเล่นได้ เพื่อนๆ ต้องต่อสายและอุปกรณ์ต่างๆ ให้เรียบร้อยซะก่อน
อุปกรณ์นี้มีข้อเสียอยู่อย่างเดียวคือ ผู้ใหญ่เล่นไม่ได้ 5555


-----------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณข้อมูลจาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น